NIA ดึง 6 พรรคการเมืองร่วมดีเบตโจทย์นวัตกรรม พร้อมโชว์วิสัยทัศน์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม

NIA ดึง 6 พรรคการเมืองร่วมดีเบตโจทย์นวัตกรรม พร้อมโชว์วิสัยทัศน์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม

NIA ดึง 6 พรรคการเมืองร่วมดีเบตโจทย์นวัตกรรม พร้อมโชว์วิสัยทัศน์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม

Blog Article

NIA ดึง 6 พรรคการเมืองร่วมดีเบตโจทย์นวัตกรรม พร้อมโชว์วิสัยทัศน์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ร่วมกับสถาบันเอเชียศึกษา และคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดพื้นที่ชวนตัวแทนพรรคการเมืองร่วมดีเบตนโยบายนวัตกรรมสู่การขับเคลื่อนประเทศด้วยมิติการเมืองใหม่ พร้อมโชว์วิสัยทัศน์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ - สังคมของประเทศไทยด้วยนวัตกรรมเพื่อเรียกความเชื่อมั่นกับประชาชน นอกจากนี้ ยังเผยนโยบายด้านนวัตกรรมกับการแก้ไขปัญหาของไทยตามแนวคิก 3C “Competitiveness - Corruption - Climate Change” ที่ผู้นำจำเป็นต้องนำนวัตกรรมมาเร่งสร้างการเปลี่ยนแปลง

ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ NIA กล่าวว่า การเลือกตั้งที่ใกล้ถึงนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญอีกครั้งของประเทศไทย ซึ่งจะเห็นได้ว่าหลายพรรคการเมืองได้ออกนโยบายเพื่อสร้างและพัฒนาประเทศให้มีพัฒนาการในด้านเศรษฐกิจ สังคม สวัสดิการ สาธารณสุข การศึกษา และอีกหลายด้านตามบริบทวิถีชีวิตและสภาพแวดล้อมโลกที่เปลี่ยนไป โดยการสร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้นั้น NIA เชื่อมั่นว่าควรนำ “นวัตกรรม” มาเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อน และต้องทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่านวัตกรรมไม่ใช่แค่เรื่องของการเปลี่ยนแปลงทาดิจิทัลเพียงอย่างเดียว แต่ปัจจัยทางนวัตกรรมจำเป็นเครื่องมือที่ช่วยแก้ไขปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ การจ้างงาน ความมั่นคงในชีวิตได้อย่างแท้จริง นาจา 888 สล็อต

6 พรรคการเมืองที่เข้าร่วมดีเบตในครั้งนี้ ได้แก่ พรรคชาติพัฒนากล้า, พรรครวมไทยสร้างชาติ, พรรคประชาธิปัตย์, พรรคเพื่อไทย, พรรคก้าวไกล และพรรคไทยสร้างไทย

วรนัยน์ วาณิชกะ ตัวแทนจากพรรคชาติพัฒนากล้า แสดงความคิดเห็นว่า วาระเร่งด่วนของการพัฒนานวัตกรรมในประเทศไทยคือการสร้างระบบราชการที่ดี ให้มีแนวคิด Good Governance ดังเช่นประเทศชั้นนำในเอเชียอย่างญี่ปุ่น ที่มีระบบราชการที่ดีและทันสมัยมาก สำหรับปัจจุบันจะเห็นได้ว่าระบบราชการไทยยังไม่ตอบโจทย์บริบทการเปลี่ยนแปลง และความต้องการของผู้คนมากนัก ขางส่วนมีความล่าช้า ไม่ทันสมัย ซึ่งแนวทางที่จะต้องดำเนินโดยเร็วคือการสร้าง “GOVTECH หรือระยยเทคโนโลยีภาครัฐ” ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว เขื่อมกันเป็น ONE STOP SERVICE ทำทุกธุรกรรมได้โดยไม่ต้องเดินทางมาก นอกจากนี้ ยังต้องมีระบบเทคโนโลยีรัฐที่สามารถตรวจสอบได้ เพื่อให้เกิดความไว้วางใจ แสดงถึงความโปร่งใส โดยเชื่อว่าหากได้ทำทันทีก็จะทำให้ชีวิตของประชาชนเป็นไปในทางที่ดีขึ้น

Report this page